เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์
EAED3207 Science Provision for Early Childhood
แฟ้มสะสมงานในรายวิชาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2563
วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563
สื่อเพื่อพัฒนาลูกรัก
สื่อเพื่อพัฒนาลูกรัก
เอกสารส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครอง
สวัสดีค่ะท่านผู้ปกครองพวกเรามีเทคนิคการพัฒนาทักษะทางสติปัญญาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จากการทดลองด้วยนิทานเรื่อง
“สุนัขจิ้งจอกกับเงา” ซึ่งในนิทานเราสามารถนำมาทำการทดลองที่บ้านได้โดยกิจกรรมนี้จะเกี่ยวกับเรื่อง”แสงและเงา” ผู้ปกครองสามารถทำตามได้ง่ายๆโดยชวนกันวัดขนาดของเงา
การสังเกตเงา (เรียนรู้เรื่องคณิตศาสตร์/ วิทยาศาสตร์) การนำวัตถุในบ้าน มาติดไฟฉายส่องไปที่ผนังแต่งนิทานสร้างเรื่องราวหรือเล่นละครกับลูก ซึ่งขณะเล่นกับลูก หากผู้ปกครองได้สังเกตพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก เช่น
ภาษาดูว่า การฟังการพูดเป็นอย่างไร ลูกกล้าแสดงออก
มี ความเชื่อมั่นในตนเองเพียงใด การคิดและจินตนาการหลากหลายหรือไม่
การร่วมเล่นสนุกกับลูกๆ จึงให้ประโยชน์อย่างนึกไม่ถึงทีเดียวที่สำคัญส่งผลต่อความรักความอบอุ่นและความสุขในครอบครัวด้วย
กิจกรรมการทดลองเรื่อง
“สุนัขจิ้งจอกกับเงา”
เย็นวันหนึ่งเวลาใกล้พลบค่ำ
ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงเลือดหมูกำลังจะลับขอบฟ้าได้มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง…เดินมาตามถนนซึ่งมันเดินหันหลังให้กับดวงตะวันที่กำลังจะตกดินทันใดนั้นเมื่อมันรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นเงาของตัวเองบนพื้น…
เงาดำทึบ ยาวและใหญ่อันเนื่องจากแสงอาทิตย์ปรากฏบนถนน
และเคลื่อนที่ไปพร้อมกับตัวของสุนัขจิ้งจอกมันแปลกใจกับเงาของตัวมันเองเป็นอย่างมากและเงานั้นก็ดูเหมือนกับว่าได้เดินนำหน้ามันไปตลอดเสียด้วยสิ
”ว้าว…มันชั่งเป็นเงาที่ใหญ่โตมากเลยนะเนี่ย“
”หากเงาของข้าใหญ่ขนาดนี้
ก็หมายความว่า ตัวของข้าเองนั้นก็จะต้องใหญ่เหมือนกันด้วยน่ะสิ” มันเกิดความคิดที่หยิ่งผยองขึ้นมาและเริ่มออกเดินต่อไปเรื่อย
ๆต่อมามีเสือตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง
ออกมาปรากฏตัวขึ้นที่ตรงหน้าของสุนัขจิ้งจอกและได้หยุดยืนนิ่งอยู่ที่ตรงเงามันพอดี
เจ้าสุนัขจิ้งจอกเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเปรียบเทียบขนาดของเงาตัวเองกับเสือตัวนั้นพร้อมเอ่ยขึ้นว่า “จากที่ข้าดูแล้วนะ..เจ้าตัวเล็กกว่าข้ามาก
ฉะนั้นข้าจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น”สุนัขจิ้งจอกยังพูดแบบหยิ่งยโสต่ออีกด้วยว่า”เฮ้…เจ้าเสือน้อย…คุกเข่าลงต้อนรับข้าเดี๋ยวนี้นะ…จนกว่าข้าจะเดินผ่านไป”
”ก้าววว! อ้ายสุนัขจิ้งจอกผอมแห้ง
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนี้ข้าจะเคยคิดว่าหากกินเอ็งเข้าไปคงจะไม่อร่อยแต่ตอนนี้ข้าไม่อาจที่จะยกโทษให้เอ็งได้เสียแล้วสิ
ก้าววว”สุนัขจิ้งจอกจึงต้องพบกับจุดจบคือถูกเสือกินเป็นอาหารที่เกิดจากมันสำคัญตัวผิด…คิดหลงไปกับเงาของตัวมันเอง
คุยกับลูก
“ถ้าหนูเป็นสุนัขจิ้งจอก
หนูจะท้าทายเสือหรือไม่…เพราะอะไร”
บทสรุป
“เห็นมั๊ยจ๊ะ การหลงตัวเองคิดว่ายิ่งใหญ่เหนือใครๆนั้นอาจนำมาซึ่งความล้มเหลวในภายหลังได้
ดังนั้นถ้าหนูพบว่า ผู้อื่นมีความแตกต่างกับเรา หนูไม่ควรไปเปรียบเทียบและพูดจาดูหมิ่นเขา”
เล่นกับลูก
ชวนลูกวัดขนาดเงา
วัสดุอุปกรณ์
1. ไฟฉาย
2. วัตถุภายในบ้าน เช่น ตุ๊กตา ของเล่น
วิธีการเล่น
1. ปิดไฟในห้องให้มืดสนิทหรือมีแสงน้อยที่สุด
2. นำวัตถุภายในบ้านมาวางในระยะห่างกันครึ่งไม้บรรทัด
มาติดไฟฉายแล้วส่องไปที่ผนังแล้วให้ภาพไปสะท้อนลงบนกำแพง
3. ถามลูกว่าเพราะเหตุใดเงาถึงมีขนาดแตกต่างกัน
4. ให้ลูกลองส่องไฟฉาย
ผลการทดลอง
เงาเกิดจากแสงที่ส่องผ่านวัตถุไม่ได้
ทำให้เกิดพื้นที่มืดหลังวัตถุนั้น ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับแสงเสมอ ระยะห่างและทิศทาง
ระหว่างแหล่งกำเนิดแสงและวัตถุ มีผลต่อขนาดและรูปร่างของเงา
โปรดตอบคำถามต่อไปนี้ตามความเป็นจริง
1. เมื่อถามเด็กว่า “ถ้าหนูเป็นสุนัขจิ้งจอก
หนูจะพูดจาท้าทายเสือหรือไม่ เพราะอะไร”
เด็กตอบว่า……………………………………………….. ……………………………………
เพราะ…………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………
2. กิจกรรมที่ท่านได้ปฏิบัติกับลูกบ่อยครั้งที่สุด
q
พูดคุยกับลูก
q ชี้ชวนให้ลูกสังเกตสิ่งต่างๆ ที่พบ
q
พาเด็กไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ
q
อื่นๆ……………………………..
ลงชื่อ………………………………...ผู้บันทึก
ชื่อเด็ก………………………………………..
ชั้น……………………………………………
วันที่……เดือน………………….พ.ศ………..
พบกันใหม่พรุ่งนี้ค่ะ
สรุปงานวิจัย
นำเสนอวิจัยเรื่อง : การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการใช้กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์เสริมการเรียนรู้
โดย : ธนภรณ์ ก้องเสียง
ปีพ.ศ.2558
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
สรุปได้ดังนี้
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science experiment) เป็นกิจกรรมที่ตอบสนองต่อธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้จากการเล่น การปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม และจากการได้ใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ เช่น การฟัง การเห็น การชิมรส การดมกลิ่น การสัมผัสจับต้องสิ่งต่างๆ กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เป็นการจัดกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นความสามารถทางด้านสติปัญญาที่สามารถฝึกฝนให้กับเด็กปฐมวัยได้ด้วยการจัดประสบการณ์ให้เด็กได้โอกาสปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดให้กับเด็กปฐมวัยในช่วงกิจกรรมเสริมประสบการณ์หรือกิจกรรมในวงกลม เพื่อมุ่งพัฒนาให้เด็กได้เรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้และเพื่อสร้างความคิดรวบยอดในสิ่งที่ได้เรียนรู้ ลักษณะของการจัดกิจกรรมเป็นกระบวนการและมีขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจน ครูเป็นผู้ตระเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการทดลองไว้อย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่เด็กจะลงมือปฏิบัติกิจกรรม ครูอาจจะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมก่อน แล้วให้เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ขณะเด็กปฏิบัติกิจกรรม ครูเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์และช่วยเหลือเด็กตามความเหมาะสม และเมื่อเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรม ครูให้เด็กออกมานำเสนอหรืออภิปรายสิ่งที่ได้จากการทดลอง ทั้งนี้เพื่อให้เด็กสรุปสิ่งที่ค้น พบด้วยตนเองทุกครั้ง และถือว่าการเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นการเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นศูนย์ กลาง (Child – centered) และสะท้อนการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้ (Constructivism) โดยทั่วไปแล้วการจัดกิจ กรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์จะเป็นกิจกรรมที่ครูปฐมวัยจัดให้เด็กทำการทดลองสัปดาห์ละ 1 ครั้งตามหน่วยการเรียนรู้ เช่น การเรียนรู้หน่วยน้ำ ครูจะให้เด็กได้เรียนรู้ในกิจกรรมเสริมประสบการณ์ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
บันทึกการเรียนครั้งที่ 10
บันทึกการเรียนครั้งที่ 10
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563
เวลา 08:30 - 12:30 น.
เนื้อหาที่เรียน
โครงการวิทยาศาสตร์(การทดลอง)
คุณครูต้องเริ่มจากคำถามของเด็กๆ ครูมีหน้าที่ให้คำตอบ จดบันทึกจากคำพูดของเด็ก
1.ครูพูดคุยเรื่องชีวิตประจำวันของเด็กๆ ครูต้องการที่จะกระตุ้นในการทำกิจกรรม
2.อุปกรณ์ จะเป็นตัวอย่าง คือ การกระตุ้นให้เด็กสงสัยอยากรู้
ครูควรที่จะซ้อนไว้แล้วนำออกมาทีละชิ้นพร้อมกับแนะนำชื่ออุปกรณ์
3.การนำเข้ากิจกรรม ครูสอนให้เป็นตัวอย่าง
ต้องใช้คำถาม(ใครอยากที่จะช่วยบ้าง?)
4.เริ่มกิจกรรม ในแต่ละขั้นควรให้เด็กสังเกต ว่าเห็นอะไรบ้าง
ทุกๆการตอบของเด็กครูคสรที่จะสนองคำตอบของเด็ก ด้วยการชมว่าเก่งมาก
5.ขั้นสรุป ครูต้องเท้าความว่า ทำอะไรบ้าง เห็นอะไรบ้าง สรุปข้อเท็จจริง
คือการสังเกตเห็นอะไรจากผลที่ทำ
6.การบูรณาการ ด้านภาษากับคณิตศาสตร์สอดแทรกเข้าไป
อาจารย์ได้ให้จับกลุ่ม
ช่วยกันคิดหน่วยการเรียนรู้เพื่อที่จะทำการทดลอง
วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563
บันทึกการเรียนครั้งที่ 9
บันทึกการเรียนครั้งที่ 9
วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563
เวลา 08:30 -12:30 น.
เนื้อหาที่เรียน
อาจารย์ได้แจกกระดาษแข็ง2ชิ้นเพื่อให้ได้ทำลองเล่นที่เกี่ยวกับอากาศ
เลยตัดสินใจทำลูกยาง แต่ทำไม่สำเร็จเนื่องจากกระดาษแข็งเกินไป เลยทำให้ลุกยางตกเร็วเกินไป
ต่อมาอาจารย์แจกกระดาษอ่อนคนละ1แผ่นเพื่อทำลุกยาง ให้ลอยได้นานที่สุด
สุดท้ายอาจารย์ได้ให้ปั้นดินน้ำมันยังไงก็ไดให้ลอยน้ำได้ เราจะต้องปั้นให้เป็นถ้วย
เพื่อที่จะได้ให้อากาศเข้าไปจงทำให้ดินน้ำมันลอย เหมือนกับการต้มบัวลอย ที่เวลาบัวลอบสุก
บัวลอยจะมีรูอากาศที่ใหญ่ขึ้นเลยทำให้อากาศเข้าไปและทำให้บัวลอยมันลอบขึ้น
คำศัพท์
1.float ลอย
2.Air
อากาศ
3.Boomerang บูมเมอแรง
4.Rubber
ball ลูกยาง
5.Plasticine ดินน้ำมัน
ประเมิน
ไม่ได้เข้าร่วมการเรียนการสอน
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563
บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2563
เวลา 08:30 - 12:30 น.
เนื้อหาที่เรียน
อาจารย์ได้ให้ดุคลิปวิดีโอเกี่ยวกับน้ำและคุณสมบัติของน้ำ และการทดลองต่างๆ
โดยจะสรุปเป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับสมบัติของน้ำ ได้แก่
1.สมบัติของน้ำ ของแข็ง ของเหลว ก๊าช
2.การเกิดฝน
3.การระเหย
4.การขยายตัว
5.ความหนาแน่
6.แรงตึงผิว
7.แรงกด
การอุ้มน้ำ!!
การเกิดน้ำ
ของแข็ง==น้ำแข็ง
ของเหลว=น้ำดื่ม
ก๊าซ=ไอน้ำ
สสารทั้ง3สามารถวนเวียนกันไปเรื่อยๆ
เมื่อน้ำแข็งได้รับความร้อน
การเกิดฝน!!
การที่ของแข็งเปลี่ยนเป็นของเหลวเรียกว่าการควบแน่น
เมื่อน้ำได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ก็จะระเหยเป็นไอน้ำตลอดเวลา
เมื่อน้ำไปรวมกันบนท้องฟ้าก็จะเกิดเป็นก้อนเมฆ
การระเหยของน้ำจากแหล่งน้ำหลังฝนตก
>>
หลังจากฝนตกน้ำในแหล่งน้ำจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เมื่อโดนความร้อนจากดวงอาทิตย์จะเกิดการละเหยและแห้งเหื่อด
น้ำเค็มน้ำจืด💦
น้ำเกลือจะมีความหนาแน่นกว่าน้ำธรรมดา
จึงทำให้วัสดุหรือคนลอยอยู่ในน้ำเกลือได้นานกว่าน้ำธรรมดา
แรงกดดันของน้ำ💧
แรงกดดันของงานจะไม่เท่ากันแรงกดดันที่อยู่บนสุดจะมีแรงกดดันน้อยกว่ารูที่อยู่ข้างล่างจะมีแรงกดดันมากที่สุดน้ำจึงพุ่งออกมาได้มากกว่ารูบนของขวดน้ำ(ใหญ่)
****เปลี่ยนภาชนะ****
เมื่อเปลี่ยนภาชนะ
ในลักษณะในลักษณะไม่เท่ากันเมื่อเติมน้ำให้เท่ากันแรงกดดันจะไม่เท่ากัน
เมื่อลดปริมาณปริมาตรของน้ำในขวดไม่เท่ากันจึงลดน้ำในขวดใหญ่จึงปล่อยแรงกดดันออกมาไม่เท่ากัน
เขื่อนกั้นน้ำ =
น้ำที่อยู่ภายในบริเวณด้านหน้าจะมีแรงกดดันมากกว่าน้ำที่อยู่บริเวณด้านบน
ถ้าหากน้ำที่อยู่บริเวณด้านล่างไม่มีแรงกดดันมากพออาจทำให้เขื่อนแตกได้
อากาศ
>>
อากาศที่อยู่ภายในขวดที่เติมน้ำเมื่อนำตุ๊กตาที่มีโพแล้วบีบขวดไว้จะตุ๊กตาที่อยู่ด้านล่างเมื่อปล่อยขวดออกจะทำให้ตุ๊กตาลอยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำ
>>
แรงดันอากาศของน้ำทั้งสองด้านเท่ากันน้ำก็จะอยู่เท่ากันไม่ว่าจะปรับให้ด้านหนึ่งสั้นหรือด้านหนึ่งสูงกว่าปริมาณน้ำก็จะอยู่เท่ากัน
แรงตึงผิว
>>
การลอยบนผิวน้ำ ทดลองเรือเมื่อนำเอาฟองน้ำมาวางไว้เหลือก็จะไม่แล่นถ้าหากนำสบู่มาใส่เรือก็จะสามารถขับเคลื่อนได้บนผิวน้ำ
สาเหตุเพราะสบู่มีแรงตึงผิวแรงตึงผิวที่มีมากกว่าก็จะสามารถทำให้เบื่อที่มีแรงตึงผิวสามารถเล่นได้
คุณสมบัติของน้ำ
🍆 ปรากฏการณ์ท่อรูเข็ม ธรรมชาติของน้ำสามารถแทรกเข้าไปในช่องว่างของวัตถุได้ไม่ว่าวัสดุนั้นจะมีช่องว่างขนาดเล็กเท่าไหร่ก็ตาม
อาจารย์ได้ให้ออกแบบของเล่น1ชนิด ที่เกี่ยวกับน้ำ โดยจับกลุ่ม5คน ช่วยกันคิด พวกเราตกลงกันว่า จะทำขวดน้ำดนตรี มี่เปลี่ยนเป็นพลังงาน
คำศัพท์
1.Surface tension แรงตึงผิว
2.Pressure แรงกด
3.Make sure ควบแน่
4.water turbine กังหันน้ำ
5.Evaporation การระเหย
ประเมิน
ประเมินตนเอง ตั้งใจดูคลิปเรื่องน้ำ และช่วยเพื่อนสรุปองค์ความรู้
ประเมินเพื่อน ช่วยกันทำานและคิดว่าจะทำของเล่นอะไร
ประเมินอาจารย์ ให้ดูคลิปและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับของเล่นที่นักศึกษาเสนอ